มีรายงานการเคลื่อนไหวเกี่ยวกับวงการตลาดหุ้นเข้ามาโดยหุ้นดังกล่าวนั้นเป็นหุ้นที่อยู่ในโซนเอเชียโดยข้อมูลของหุ้นที่มีการเคลื่อนไหวนั้นเป็นข้อมูลในช่วงครึ่งวันก่อนที่จะมีการปิดตลาด
ตามรายงานข่าวระบุว่าหุ้นของแถบประเทศในเอเชียนั้นมีการปรับตัวกันสูงขึ้นหลังจากที่ทางสภาผู้แทนราษฎรของประเทศสหรัฐอเมริกาได้ออกมาประกาศเกี่ยวกับความช่วยเหลือด้านงบประมาณที่จะส่งไปช่วยเหลือประชาชนในช่วงที่มีการระบาดของไวรัสโคโรน่าซึ่งการประกาศนี้ทำให้มีความชัดเจนมากขึ้นว่าในขณะนี้ทางการของประเทศสหรัฐอเมริกามีการออกงบประมาณมาช่วยเหลือประชาชนอย่างแน่นอน
และประกาศนี้เองได้ส่งผลทำให้หุ้นในเอเชียพุ่งทะยานสูงขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ้นของประเทศญี่ปุ่นที่มีการปรับตัวสูงขึ้นมากที่สุดในประวัติศาสตร์การซึ่งหากนับย้อนหลังไปก็ไม่เคยสูงเท่านี้มาก่อนนับตั้งแต่ 30 ปีก่อนหน้านี้ แน่นอนว่าด้วยจำนวนหุ้นที่มีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนนั้นทำให้หลายคนมีความดีใจ และมองว่าสถานการณ์ในตอนนี้ของประเทศญี่ปุ่นคาดว่าเศรษฐกิจน่าจะกลับมาคึกคักได้ในเร็ววันนี้อย่างแน่นอนหลังจากที่ประเทศญี่ปุ่นนั้นต้องพบกับปัญหาการระบาดของไวรัสโคโรน่ามาถึง 2 รอบแล้วด้วยกัน
อย่างไรก็ตามเกี่ยวกับจำนวนหุ้นที่เพิ่มสูงขึ้นนั้นถึงแม้ว่าประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีหุ้นที่สูงขึ้นมากที่สุดแต่หุ้นของประเทศอื่นๆในแถบเอเชียก็สูงขึ้นเช่นเดียวกันถึงแม้ว่าจะเพิ่มสูงขึ้นไม่เท่ากับญี่ปุ่นก็ตามอย่างเช่นประเทศจีนเองหุ้นก็มีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขยับขึ้นมาอีก 0.1% ส่วนประเทศอื่นๆที่ไม่ใช่หุ้นในแถบประเทศเอเชียก็ขยับตัวสูงขึ้นเช่นเดียวกันอย่างเช่นหุ้นของประเทศออสเตรเลียก็มีการเปลี่ยนแปลงโดยมีการขยับตัวสูงขึ้นมาอีก 0.55%
แน่นอนว่าสถานการณ์ด้านหุ้นที่มีการปรับตัวสูงขึ้นในครั้งนี้นั้นส่งผลทำให้ตลาดหุ้นมีความคึกคักมากขึ้นกว่าเดิมอีกหลายเท่าตัวเลยทีเดียวเพราะมันเป็นสัญญาณที่กำลังบ่งบอกว่าสถานการณ์เศรษฐกิจของโลกนั้นน่าจะกลับมาดีขึ้นในเวลาอันใกล้นี้อย่างแน่นอนทำให้หลายฝ่ายที่ได้เห็น ว่าหุ้นมีการพุ่งขึ้นนั้นได้มีการเคลื่อนไหวทางการตลาดขึ้นมาทันทีโดยเฉพาะน่าจะส่งผลเกี่ยวกับเรื่องของเศรษฐกิจการซื้อขายการลงทุนต่างๆ
ดังนั้นนี่อาจจะต้องเป็นการยกความดีความชอบให้กับประเทศสหรัฐอเมริกาที่มีการร่างกฎหมายเอาไว้เกี่ยวกับงบประมาณความช่วยเหลือของประชาชนในช่วงที่มีการระบาดของไวรัสโคโรนาซึ่งในขณะนั้นเป็นทางด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์เป็นผู้มีการร่างกฎหมายเอาไว้หลังจากนั้นผู้แทนราษฏรสภาก็ได้เอามติในที่ประชุมนี้มาปรึกษาหารือกันและก็อนุมัติร่างงบประมาณนี้ออกมานั้นเอง
สนับสนุนโดย จีคลับ คาสิโน