ยื่นเรื่องขอให้มีโครงการช็อปช่วยชาติกลับมาอีกครั้ง หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ

โครงการช็อปช่วยชาติ เมื่อวันที่ 19 เดือนมิถุนายนปีพศ2563 ทางด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้พูดถึงการที่ในภาคของเอกชนนั้นได้มีการรวมตัวกันยื่นข้อเสนอขอให้มีการทำโครงการขึ้นมาใหม่อีกครั้งในโครงการช็อปช่วยชาติที่เคยมีมาแล้วก่อนหน้านี้

ซึ่งนอกจากจะขอร้องขอให้มีการนำโครงการช็อปช่วยชาติกลับมาใช้ใหม่แล้วยังระบุให้มีวงเงินในโครงการนี้มากขึ้นกว่าเดิมซึ่งจากเดิมนั้นโครงการนี้มีการใช้วงเงินสำหรับโครงการช็อปช่วยชาติอยู่ที่ประมาณ 30,000 บาทต่อคนก็ขอให้มีการขยายเพิ่มเป็น 50000 บาท

ต่อคนซึ่งมีการคาดการณ์กันว่าหากโครงการนี้ออกมาก็จะสามารถกระตุ้นการใช้เงินของประชาชนได้เป็นอย่างดีและหวังว่าสะกิดของประเทศนั้นจะดีขึ้นจากโครงการนี้ได้อย่างแน่นอนอย่างไรก็ตามทางด้านกระทรวงการคลังเล็งเห็นแล้วว่าโครงการนี้เห็นว่าเป็นโครงการที่ให้ประโยชน์กับประชาชน

และยังมีการเพิ่มและกระตุ้นให้เกิดการใช้เงินเกิดขึ้นจึงได้กำลังรวมรวมข้อมูลต่างๆเพื่อนำเสนอในที่ประชุม ซึ่งทางด้านกระทรวงว่าการคลังนั้นกำลังมีแผนการที่จะมีการเขียนโครงการต่างๆเพื่อนำมาพิจารณาในการช่วยเหลือประชาชนและเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจให้มีการ กลับมาเติบโตได้อีกครั้งหนึ่งซึ่งยังมีหลายแผนงานที่จะนำเสนอในที่ประชุมดูอาจจะต้องมีการพิจารณาเสนอไปทีละโครงการ

        สำหรับโครงการช็อปช่วยชาตินั้นปกติแล้วเรามักจะเห็นโครงการนี้ออกมาในช่วงปลายปีซึ่งมีการทำโครงการนี้มาแล้วประมาณ 2 ถึง 3 ครั้งด้วยกันโครงการนี้จะเป็นการออกมาเพื่อให้ประชาชนนั้นพากันจับจ่ายใช้สอยสินค้าแล้วนำใบเสร็จนั้นไปยื่นเรื่องขอลดภาษีได้ทำให้ในช่วงเวลาสิ้นปีนั้น

จะมีประชาชนเป็นจำนวนมากที่ออกมาซื้อของกันเพื่อหวังว่าใบเสร็จต่างๆนั้นจะนำไปลดหย่อนภาษีได้นั่นเองอย่างไรก็ตามหากทางรัฐบาลได้พิจารณาเกี่ยวกับโครงการนี้ก็อาจจะกระตุ้นการใช้เงินของประชาชนได้อย่างไรและประชาชนทุกคนก็ต้องมีการเสียภาษีประจำปีกันอยู่แล้ว

ดังนั้นหากได้มีโครงการนี้ออกมาประชาชนส่วนใหญ่ก็อาจจะมีการใช้งานซื้อสินค้าในปริมาณมากขึ้นเพื่อหวังที่จะนำใบเสร็จต่างๆนี้ไปลดหย่อนภาษีตอนสิ้นปีได้นั่นเองอย่างไรก็ตามเราคงต้องมาลุ้นกันว่าโครงการนี้จะสามารถผ่านมติ ครม.ได้หรือไม่และการซื้อสินค้านั้น

จะมีการควบคุมจำนวนสินค้าหรือไม่ว่าต้องเป็นสินค้าประเภทไหนคงต้องรอดูรายละเอียดของโครงการดูอีกทีนึงว่าที่จริงแล้วออกมาแล้วเหมาะสมกับการใช้จ่ายของประชาชนหรือไม่  ซึ่งถ้าหากว่ามีการระบุสินค้าที่เป็นประโยชน์ประชาชน จำเป็นต้องซื้อเอาไว้ใช้ในชีวิตประจำวันอยู่แล้วโครงการนี้จะถือว่าดีอย่างมากเลยทีเดียว

 

สนับสนุนโดย.   ufabet ฝากเงิน ออโต้